วาระแรกเรื่องแจ้งเพื่อทราบ
1.ผลการประชุมร่วมกับกระทรวงยุติธรรมเรื่องนักสังคม ป.วิอาญา วาระนี้ไม่ค่อยได้ฟังมัวแต่เล่นกับเครื่องอัดเทปมันเกเรไม่อัดให้ แต่พอได้ยินว่า ก.ยุติTรรมกำลังยกร่างระเบียบใหม่โดยจะแยกคำว่านักจิตและนักสังคมออกจากกันและระบุคุณสมบัติของแต่ละตำแหน่งเช่นถ้าเป็นนักสังคมต้องมีใบประกอบวิชาชีพ อะไรทำนองนี้ถ้าจะให้ถูกต้องต้องรอรายงานตัวจริงคะ
2.เรื่องผลการอบรมcase review ที่ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่มีผู้เข้าร่วม131คน นักสังคมสนใจสอบถามรายละเอียดแต่เสียดายไม่ได้มีการประเมินความพึงพอใจ ภาคอื่นๆจะประเมินมาให้นะคะ แจ้งต่อเรื่องการอบรมที่ภาคใต้จะจัดขึ้นในวันที่ 28-29 เมษา ที่ นครศรีธรรมราชนั้น จำนวนผู้เข้ารับการอบรมยังน้อยอยู่สนใจติดต่อเข้ามาเพิ่มเติมด่วนคะ
3.เรื่องใบอนุญาตและบัตรสมาชิกที่ส่งไปหมดแล้วเหลือแต่ที่แก้ไขการพิมพ์ผิดและหาบัตรไม่พบ (อันเนื่องมาจากการโยกย้ายที่ทำงานหนีภัยธรรมชาติและการเมืองรวมทั้งเรายังไม่มีที่ทำการถาวรของสภา) ซึ่งสภาให้ค้นหาทั้งหมดจากใบสมัครและขอขึ้นทะเบียน 13 ลังซึ่งเป็นข้อมูลดิบที่มีอยู่ตอนนี้จัดทำฐานข้อมูล data based และจัดพิมพ์บัตรให้ใหม่ ท่านที่ยังไม่ได้บัตรก็ติดต่อน้องหนุ่มนะคะ ขอเป็นเวลาทำงานนะคะ 8.30-17.00 น. และหนุ่มเองก็จะโทรสอบถามบางท่านที่เราส่งไปแล้วท่านได้รับบัตรหรือไม่
4.แนะนำ เว็บไซด์ของสภาฯ อ.สมศักดิ์มาแนะนำและสาธิตการใช้เว็บ สนุกมาเชียวท่านต้องสมัครเป็นสมาชิกเว็บนะคะ ถ้ามีความเคลื่อนไหวอะไรที่เว็บไซต์มี mass mail ส่งไปที่ท่านเลย กำลังลองว่ากระดานถามตอบนี้จะเป็นความเคลื่อนไหวที่ส่งmass mail ได้ด้วยรึเปล่า
วาระเรื่องสืบเนื่อง
5.การเตรียมดำเนินการอบรมหลักสูตร 48และหลักสูตร 200 ชั่วโมง
ฝ่ายฝึกอบรมจะจัดอบรมหลักสูตร 48 ชั่วโมงระหว่างวันที่ 14-19 กค. 57 หลักสูตร 200 ชั่วโมง 21 กค.- 2 สิงหา 57 รายละเอียดและค่าใช้จ่ายจะรีบแจ้งและประชาสัมพันธ์รับสมัครปลายเดือนนี้โปรดติดตามนะคะ อ้อจะจัดที่ มธ.นะคะ ค่าใช้จ่ายจะได้ไม่สูงนัก เพราะท่านต้องจ่ายเงินเองแล้วคะ
วาระเพื่อพิจารณา
6.เรื่องการจัดสอบประเมินความรู้เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพของนักสังคมจบใหม่หรือท่านนักสังคมจบตรงที่มีประสบการณ์แล้วแต่ไม่อยากเขียนเคสรีิวิว ที่ประชุมอภิปรายรายละเอียด เนื้อหาการสอบ กระบวนการดำเนินการสอบ ตามที่คณะกรรมการออกข้อสอบเสนอมา หลายกทีเดียวในที่สุดก็มีมติเห็นชอบเรื่องการจัดสอบที่แบ่งเป็นภาคทฤษฎีและภาคการสัมภาษณ์จากการฝึกในหน่วยงาน รายละเอียดของการกระจายเนื้อหาสาระการสอบภาคทฤษฎีตามหมวดวิชาต่างๆ ส่วนเรื่องที่ยังเป็นข้อถกแถลงกันมากก็คือกระบวนการดำเนินการสอบระหว่างภาคทฤษฎีและการสัมภาษณ์ฝึกนั้นจะควบคู่กันหรือต้องให้หมวดใดหมวดหนึ่งเสร็จสิ้นก่อนหรือไม่ อีกประเด็นคือภาคการฝึกนั้นใช้เก็เป็นเคสแทนการกำหนดเวลา 240 ชั่วโมงได้หรือไม่ สภาให้คณะกรรมการออกข้อสอบไปทบทวนและเสนอรายละเอียดมาอีกคะ
7.เรื่องการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาผู้ปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์ที่จะต้องขึ้นทะเบียนรับอนุญาตมีใครบ้าง วาระนี้ก็เรื่องหนักอีกเรื่องของสภาแรกๆก็นึกว่าตำแหน่งนักสังคมตามมาตรา 28 เท่านั้นซึ่งแค่นี้ก็ยุ่งยากพอสมควรในประเด็นนักสังคมตามกฎหมายต่างๆที่ระบุไว้ ยังมีประเด็นคนที่จบสังคมแต่ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่ใกล้เคียงประสงค์จะขึ้นทะเบียน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานสังคมสงเคราะห์แต่ไม่จบสังคมฯหรือไม่ใช่ตำแหน่งนักสังคมแต่ใช้ความรู้และทักษะการทำงานสังคมสงเคราะห์บางส่วน อื่นๆอีกมากมาย กลุ่มเหล่านี้ยังไม่ชัดเจนนัก ฝ่ายเลขาและกรรมการหลายท่านได้รับคำถามมากๆจึงประสงค์จะให้มีการตั้งคณะทำงานศึกษาพิจารณากันให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการและมอบท่านนายกตั้งทีมที่มีองค์ประกอบทั้งผู้ปฏิบัติงาน นักวิชาการ เพื่อพิจารณาประเด็นดังกล่าว
8.เรื่องการแต่ตั้งคณะกรรมการจรรยาบรรณวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ ที่ประชุมให้เสนอชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่ พรบ.กำหนดไว้ เท่าที่จะได้คือเป็นสมาชิกสามัญ เป็นมีใบประกอบวิชาชีพ มีความซื่อสัตย์ สุจริต และอื่นๆ
9. รายงานการเงิน ตอนนี้สภามีเงินอยู่ 941,963.46 บาท ครึ่งหนึ่งเป็นเงินที่เก็บค่าธรรมเนียมและการสอบมาจากสมาชิกสามัญและสมาชิกที่ขึ้นทะเบียน ยังไม่ได้เก็บค่าขึ้นทะเบียนเลยนะเพราะต้องให้ ครม.อนุมัติแต่ตอนนี้วุ่นวายกันก็เลยถูกแขวนไว้ อีกครึ่งหนึ่งที่ได้มาก็จากการบริจาคของกรรมการสภานี่เอง นอกจากไม่มีค่าตอบแทนอะไรแล้วยังเอาเงินค่าที่เป็นวิทยากรต่างๆมาให้สภาอีก เกรงใจจัง อิอิ